สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ เสด็จนิวัตกลับประทศไทยด้วยทางเรือ
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ เสด็จนิวัตกลับประทศไทยด้วยทางเรือ
คอลเลกชันภาพที่ได้รับการบูรณะด้วยเทคโนโลยี AI ชุดนี้ คือพระรูปของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พร้อมครอบครัว ในการเสด็จนิวัตกลับประทศไทยด้วยทางเรือ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2471 จากการศึกษาต่อยังสหรัฐ
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ตัดสินพระทัยเสด็จไปศึกษาต่อยังสหรัฐโดยมีพระยากัลยาณไมตรี (เจนส์ ไอเวอร์สัน เวสเตนการ์ด) เป็นผู้ถวายคำปรึกษาในการเลือกมหาวิทยาลัย โดยทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ โดยทรงเข้าศึกษาชั้นเตรียมแพทย์ก่อนเป็นเวลา 1 ปี และลงทะเบียนเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 1 ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในปี พ.ศ. 2460
หลังจากที่สำเร็จการศึกษาแพทย์ชั้นปรีคลินิกแล้ว พระองค์ทรงหยุดการศึกษาแพทย์ชั่วคราวและลงทะเบียนเข้าศึกษาในโรงเรียนสาธารณสุขซึ่งจัดตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เมื่อปี พ.ศ. 2462 ระหว่างการศึกษาพระองค์ได้พระราชนิพนธ์รายงานการศึกษาเรื่อง A sanitary survey of the city of Gloucester, Massachusetts 1921 และทรงสำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัตรสาธารณสุขในปี พ.ศ. 2464
ขณะที่ทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพระองค์เช่าอพาร์ทเม็นต์และมีคนใช้จำนวน 1 คน พระองค์ใช้พระนามว่า มิสเตอร์มหิดล สงขลา ซึ่งนายแพทย์แอลเลอร์ เอลลิส (A.G. Ellis) ได้กล่าวถึงพระองค์ขณะที่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดไว้ว่า ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ก็ทรงเป็นเพียงนักเรียนแพทย์ผู้หนึ่งที่ไม่ใช่เจ้านาย ในพระนามบัตรก็มีว่า "มิสเตอร์มหิดล สงขลา" ในเวลาที่ประทับอยู่ในประเทศที่ไม่มีเจ้านาย พระองค์ท่านก็ไม่ใช่เจ้านาย เราถือว่าการที่วางพระองค์เช่นนี้ เป็นการให้เกียรติยศอันแท้จริงแก่ประเทศของเราและสมกับพระลักษณะของการเป็นเจ้านายที่แท้จริง — ศาสตราจารย์อุปการคุณ นายแพทย์ แอลเลอร์ กัสติน เอลลิส
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรสาธารณสุขแล้ว พระองค์รับหน้าที่เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการเจรจากับมูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์เกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านการศึกษาวิชาแพทย์และวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย กล่าวคือการพัฒนาหลักสูตร คณาจารย์และสิ่งแวดล้อมทางการศึกษาในการศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ขณะนั้นยังอยู่ในสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังจากนั้น พระองค์ตัดสินพระทัยเข้าศึกษาวิชาแพทย์ต่อในชั้นปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระ เมืองเอดินบะระ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร แต่พระองค์ประชวรด้วยโรคพระวักกะ (โรคไต) ซึ่งสภาพอากาศที่อังกฤษมีอากาศชื้นและหนาวเย็น ไม่เหมาะกับพระโรค ดังนั้น พระองค์จึงต้องเสด็จนิวัตกลับพระนคร โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมมหาวิทยาลัยตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2466
ในปี พ.ศ. 2469 พระองค์ได้เสด็จไปศึกษาวิชาแพทย์ต่ออีกครั้ง ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐ จนกระทั่งทรงสำเร็จการศึกษาได้ปริญญาแพทยศาสตร์ เกียรตินิยมระดับ Cum Laude เมื่อปี พ.ศ. 2471
หลังจากนั้น พระองค์เสด็จนิวัตกลับประทศไทยเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2471 โดยประทับอยู่ที่พระตำหนักใหม่ วังสระปทุม
________________________________
His Highness Somdet Phra Mahitalathibet Adulyadej Vikrom Phra Borommaratchachanok (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) returned to Thailand by sea.
This collection of AI-restored photographs shows him together with his family on the voyage of return on 13 December 2471 B.E. (1928 A.D.), after his further studies in the United States.
Somdet Phra Mahitalathibet Adulyadej Vikrom, Prince Father, made the decision to study in the U.S., being advised by Phraya Kalyāṇamaīttrī (Jens Iverson Westergaard) (พระยากัลยาณไมตรี, Jens Iverson Westergaard) in selecting his university. He entered the Harvard University in Cambridge, Massachusetts, U.S., initially in the pre-medical track for one year, and then formally registered as a first-year medical student in the Faculty of Medicine at Harvard in the year 2460 B.E. (1917 A.D.).
After completion of his pre-clinical medical studies, he temporarily paused his medical degree and enrolled in the School of Public Health established in cooperation between Harvard University and the Massachusetts Institute of Technology in the year 2462 B.E. He authored a study titled A sanitary survey of the city of Gloucester, Massachusetts 1921, and achieved his certificate in public health in the year 2464 B.E.
During his studentship at Harvard he rented an apartment, and there was one servant. He used the name “Mr. Mahidol of Songkhla” (มิสเตอร์มหิดล สงขลา). Professor A.G. Ellis remarked that while at Harvard the Prince appeared simply as a medical student, not a royal: “on his business card it read ‘Mr. Mahidol Songkhla’ … when he stayed in a country without royals, he was just one of the students. We regard that as the true mark of honour for our country and befitting the character of a true royal.”
After earning his public health certificate, he represented the Thai government in negotiations with the Rockefeller Foundation over assistance in medical and scientific education in Thailand — namely the development of curriculum, faculty and educational environment for the Faculty of Science, Chulalongkorn University, and the Faculty of Medicine, Siriraj Hospital (then under Chulalongkorn University).
Subsequently he resumed his medical studies in the third year at the University of Edinburgh in Edinburgh, Scotland, U.K. However, due to illness (kidney disease), and finding that Scotland’s damp and cold climate was unsuitable for his condition, he returned to the capital. His Majesty King Vajiravudh (Rama VI) graciously appointed him Director-General of the Department of Universities as of 11 October 2466 B.E. (1923 A.D.).
In the year 2469 B.E. (1926 A.D.) he once again went to Harvard University in the U.S., eventually graduating with an M.D. cum laude in the year 2471 B.E. (1928 A.D.).
Then he returned to Thailand on 13 December 2471 B.E. and took up residence at the New Palace, Wang Srapatum.
#aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashion #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #thailand #UNESCO
