สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
ภาพที่ผ่านการบูรณะและสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี AI นี้ เป็นพระรูปของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และ หม่อมใหญ่ เทวกุล ณ อยุธยา (สกุลเดิม สุจริตกุล)
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา พระปัยยกา (ทวด) ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศและองคมนตรีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งดำรงตำแหน่งสมุหนายกและองคมนตรีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ ประสูติเมื่อวันเสาร์ เดือน 12 แรม 7 ค่ำ ปีมะเมียสัมฤทธิศก จ.ศ. 1220 ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2401 ในพระบรมมหาราชวัง โดยเป็นพระเจ้าลูกเธอชั้นกลาง ลำดับที่ 42 ในจำนวนทั้งหมด 84 พระองค์ ทรงมีพระเชษฐา พระขนิษฐา และพระอนุชาร่วมพระมารดาอีก 5 พระองค์ ได้แก่
พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย (พระองค์นี้ได้รับพระนามตามบทบาทของเจ้าจอมมารดา)
พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ)
พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีพระองค์แรกในรัชกาลที่ 5)
พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า)
พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์)
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2428 ขณะพระชันษา 27 ปี ถึง วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2466 ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศที่อายุน้อยที่สุด และอยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 38 ปี 16 วัน และในช่วงที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดี คุณูปการที่สำคัญยิ่งของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการคือการการรักษาอธิปไตยของไทย ทรงจัดทำสนธิสัญญากับอังกฤษและฝรั่งเศส และทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับมหาอำนาจอื่นๆ อาทิ รัสเซีย เยอรมนี
ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภารกิจด้านการต่างประเทศหลายประการ อาทิ ทรงจัดและปรับปรุงรูปแบบกรมกองให้ทันสมัย ทรงขอพระราชทานที่ทำการ เพื่อให้เป็น “ศาลาว่าการต่างประเทศ” ซึ่งนับว่าเป็นกระทรวงแรกที่มีศาลาว่าการกระทรวงเป็นที่ทำการแทนการใช้บ้านเสนาบดีเป็นที่ทำการ ทรงเปิดสำนักงานผู้แทนทางการทูตของไทยในต่างประเทศ เช่น สถานทูตไทย ณ สำนักเซนต์ เจมส์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ กรุงลอนดอน
นอกจากการปรับปรุงวิธีการทำงานและการบริหารราชการแล้ว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการทรงเอาพระทัยใส่ในคุณภาพของบุคลากร ทรงส่งเสริมการพัฒนาความรู้และทักษะของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศอย่างจริงจัง โดยทรงจัดตั้งแผนกสอนภาษาอังกฤษให้แก่ข้าราชการ เสมียนและพนักงาน ทรงวางระเบียบวิธีเขียนหนังสือราชการ อีกทั้งทรงคัดเลือกนักเรียนส่งไปศึกษาต่อยังต่างประเทศอีกด้วย
ทรงมีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้าน อาทิ ภาษาไทย ภาษามคธ ภาษาอังกฤษ และวิชาเลข นอกจากนี้ ยังทรงมีความสนพระทัยในเรื่องโหราศาสตร์และสมุนไพร ทรงเป็นผู้คิดปฏิทินตามสุริยคติ นับวันและเดือนแบบสากล เรียกว่า “เทวะประติทิน” ซึ่งเป็นต้นแบบของปฏิทินในปัจจุบัน พร้อมทั้งทรงเป็นผู้คิดชื่อเดือน มีการแบ่งชื่อเรียกเดือนที่มี 30 วัน และ 31 วันชัดเจนด้วยการใช้คำนำหน้าจากชื่อราศี สมาสกับคำว่า “อาคม” และ “อายน” ที่แปลว่า การมาถึง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสร้างวังให้สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ บนที่ดินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ชื่อว่า วังเทวะเวสม์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการสิ้นพระชนม์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน 2466 รวมพระชนมายุได้ 64 ปี 7 เดือน 1 วัน และในกาลต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2466
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ เป็นต้นราชสกุล เทวกุล ทรงมีหม่อม 7 คน ได้แก่ หม่อมใหญ่ เทวกุล ณ อยุธยา (สกุลเดิม สุจริตกุล) ธิดาของเจ้าพระยาสิริรัตนมนตรี (หงส์); หม่อมลม้าย (สกุลเดิม ชูโต) ธิดาหลวงพิทักษ์อาภรณ์ (สมบุญ); หม่อมเหมือน; หม่อมปุ่น; หม่อมอบ (สกุลเดิม อมาตยกุล) ธิดาพระปรีชากลการ (สำอาง); หม่อมพุก (สกุลเดิม จันทรเสน); และหม่อมจันทร์. โดยรวมแล้วทรงมีพระโอรส 24 พระองค์ และพระธิดา 23 พระองค์ รวมทั้งสิ้น 48 พระองค์/องค์
หนึ่งในพระธิดาที่สำคัญคือ หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร (ท่านหญิงใหญ่) ประสูติเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2420 โดยเป็นพระธิดาในหม่อมใหญ่ เทวกุล ณ อยุธยา ทรงเป็นพระธิดาองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ และสิ้นชีพิตักษัยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 สิริพระชันษา 61 ปี 6 เดือน 12 วัน
หม่อมเจ้าอับศรสมาน กิติยากร ซึ่งบางครั้งพบการสะกดว่า อับษรสมาน หรือทรงได้รับการออกนามว่า “ท่านหญิงใหญ่” นั้น เป็นพระอัยยิกาฝ่ายพระราชบิดาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นพระปัยยิกาฝ่ายพระราชมารดาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย
___________________
Prince Devawongse Varoprakar
The AI-restored and artistically re-created photograph depicts Somdet Phra Chao Borom Wong Ther Krom Phraya Devawongse Varopakarn (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ) together with Mom Yai Devakula na Ayudhya (หม่อมใหญ่ เทวกุล ณ อยุธยา; née Sucharitkul – สุจริตกุล).
Somdet Krom Phraya Devawongse Varopakarn, a son of King Mongkut, Rama IV (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) and Somdet Phra Piyamavadi Sri Bajarindra Mata (สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา), was the great-grandfather on the paternal line of Her Majesty Queen Sirikit The Queen Mother (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง). He served as Minister of Foreign Affairs and Privy Councillor during the reign of King Chulalongkorn, Rama V, and later as Samuhnaik (Chief Minister) and Privy Councillor under King Vajiravudh, Rama VI.
Born as Prince Devan Udayawongse (พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์) on Saturday, the 7th waning day of the 12th lunar month, in the year of the Horse, Chulasakarat 1220 (corresponding to 27 November 1858), he was born in the Grand Palace as the 42nd of the 84 royal children of King Mongkut. He was one of six full siblings born to Somdet Phra Piyamavadi, namely:
Prince Unakan Ananta Norajaya (พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย)
Prince Devan Udayawongse (later Somdet Krom Phraya Devawongse Varopakarn – สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ)
Princess Sunandha Kumariratana (later Queen Sunandha Kumariratana – สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี)
Princess Savang Vadhana (later Queen Sri Savarindira, the Queen Grandmother – สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า)
Princess Saovabha Phongsri (later Queen Sri Bajarindra, the Queen Mother – สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)
Prince Svasti Sobhana (later Prince Svastivatana Visishta – สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์)
Devawongse Varopakarn became Minister of Foreign Affairs on 12 June 1885 at the age of twenty-seven. He remained in office until 28 June 1923, making him the youngest person ever to hold the post and the longest-serving Foreign Minister in Siamese history, with a tenure of 38 years and 16 days. His most significant contributions involved safeguarding Siamese sovereignty during a period of intense colonial pressure. He negotiated major treaties with Britain and France and strengthened diplomatic relations with other global powers such as Russia and Germany.
He modernised the structure and administration of the Ministry of Foreign Affairs, established a dedicated ministry building known as Sala Wakan Klang Nok (ศาลาว่าการต่างประเทศ), and oversaw the opening of Siam’s diplomatic missions abroad, including the Siamese Legation to the Court of St James’s in London. He also reformed the training of ministry officials, establishing an English-language programme, implementing modern bureaucratic writing standards, and selecting promising students for overseas study.
Highly knowledgeable in Thai, Pali, English, and mathematics, he also took a keen interest in astrology and traditional medicine. He devised the Deva Solar Calendar (เทวะประติทิน), which introduced a modern method for calculating months and days and became the basis of the contemporary Thai calendar.
King Vajiravudh later granted him the land and ordered the construction of Wang Devavesm (วังเทวะเวสม์), his residence, on property originally bestowed by King Chulalongkorn.
Somdet Krom Phraya Devawongse Varopakarn passed away on Thursday, 28 June 1923, aged 64 years, 7 months, and 1 day. King Vajiravudh and Queen Indrasaksachi personally presided over his cremation at Sanam Luang on 14 December 1923.
As the founder of the Devakula family (ราชสกุลเทวกุล), he had seven consorts: Mom Yai Devakula na Ayudhya (née Sucharitkul – สุจริตกุล), Mom Lamai (née Chuto – ชูโต), Mom Muean, Mom Poon, Mom Op (née Amatyakul – อมาตยกุล), Mom Phuk (née Chandrasen – จันทรเสน), and Mom Chan. Altogether, he had twenty-four sons and twenty-three daughters, a total of forty-eight children.
One of his most significant daughters was Mom Chao Apsornsaman Kitiyakara (หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร; also known as Than Ying Yai – ท่านหญิงใหญ่), born on 21 October 1877 to Mom Yai Devakula na Ayudhya. She was the eldest child of Prince Devawongse and passed away on 4 May 1939 at the age of 61 years, 6 months, and 12 days. She is the paternal grandmother of Her Majesty Queen Sirikit The Queen Mother and the maternal great-grandmother of His Majesty King Vajiralongkorn, Rama X.
เรียนเชิญกด Subscribe ได้ที่ลิงก์นี้ครับ เพื่อร่วมติดตามงานสร้างสรรค์ต้นฉบับ งานวิจัยประวัติศาสตร์แฟชั่น และผลงานอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยี AI ของ AI Fashion Lab, London ซึ่งมุ่งตีความอดีตผ่านมิติใหม่ของการบูรณะภาพ การสร้างสรรค์ภาพ และการเล่าเรื่องด้วยศิลปะเชิงดิจิทัล 🔗 https://www.facebook.com/aifashionlab/subscribe/
#aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashion #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #thailand #UNESCO