“สนิทวงศ์-บางช้าง” 2 ราชสกุลและราชินิกุล สายพระชนนี ใน “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
“สนิทวงศ์-บางช้าง” 2 ราชสกุลและราชินิกุล สายพระชนนี ใน “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นพระธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ และหม่อมหลวงบัว (สนิทวงศ์) กิติยากร
เนื่องจากหม่อมหลวงบัว กิติยากร เป็นธิดาของนายพลเอก มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ หรือหม่อมราชวงศ์สะท้าน (กลาง) สนิทวงศ์ และท้าววนิดาพิจาริณี (บาง) สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ราชสกุล-ราชินิกุล-สกุล สายพระชนนี จึงเกี่ยวเนื่องด้วยราชสกุลสนิทวงศ์ และราชินิกุลบางช้าง
“สนิทวงศ์-บางช้าง”
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท พระนามเดิมคือ “หม่อมเจ้านวม” ทรงเป็นต้นราชสกุล “สนิทวงศ์” เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 49 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ประสูติแต่ เจ้าจอมมารดาปราง เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2351 ซึ่งขณะนั้นสมเด็จพระบรมชนกาธิราชทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
เจ้าจอมมารดาปรางเป็นสตรีแห่งราชินิกุล “บางช้าง” แขวงเมืองบางช้าง (ต่อมาคือจังหวัดสมุทรสงคราม) สถานที่เสด็จพระราชสมภพและนิเวศน์สถานของสมเด็จพระอมรินทรา บรมราชินี ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 และสถานที่เสด็จพระราชสมภพในรัชกาลที่ 2
ราชินิกุลบางช้างคือพระญาติวงศ์ในสมเด็จพระอมรินทรา บรมราชินี นับเป็น “ราชินิกุล” ก่อนสกุลอื่น ๆ ในกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะสมเด็จพระอมรินทราฯ เป็นสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวงพระองค์แรก เมื่อพระราชโอรส คือ รัชกาลที่ 2 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระญาติของพระองค์ก็มีฐานะราชินิกุลตั้งแต่นั้น
เจ้าจอมมารดาปรางเป็นธิดาคนที่ 4 ของขรัวตาบุญเกิดและขรัวยายทองอินทร์ (ขรัวยายทองอินทร์เป็นหลานปู่ของท่านตาเจ้าแทน พระปิตุลาที่ 2 ในสมเด็จพระอมรินทรา บรมราชินี) ท่านทั้งคู่มีความรู้ทางการแพทย์และได้ถ่ายทอดความรู้แก่เจ้าจอมมารดาปราง เจ้าจอมมารดาปรางจึงรับหน้าที่ถวายการอภิบาลแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อยังทรงพระเยาว์
เมื่อรัชกาลที่ 2 เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2352 หม่อมเจ้านวมจึงทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้านวม ทรงมีความรู้ทางการแพทย์ที่ถ่ายทอดโดยตรงจากขรัวตาและขรัวยาย ทั้งทรงเป็นเจ้านายที่สนพระทัยวิชาการตะวันตก เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้านวม กำกับราชการกรมหมอ และเป็นแพทย์ประจำพระองค์ ก่อนเลื่อนพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวงษาสนิท ใน พ.ศ. 2385
ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวงษาธิราชสนิท ทรงได้กำกับราชการกรมมหาดไทย กรมพระคลังสินค้า และเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดินในพระองค์ จากนั้นเลื่อนเป็น “กรมหลวง” ใน พ.ศ. 2394 ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ก็ทรงอยู่ในฐานะพระบรมวงศ์ชั้นสูง เป็นที่เคารพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งทรงนิพนธ์หนังสือทางการแพทย์และงานด้านอักษรศาสตร์ไว้หลายเล่ม
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2413 ขณะพระชันษา 63 ปี ทรงมีโอรสและธิดาทั้งสิ้น 25 องค์ คนที่ 2 คือ หม่อมเจ้าสาย ประสูติแต่หม่อมแย้ม บุตรีจางวางด้วงแห่งราชินิกุลบางช้าง
เนื่องจากหม่อมเจ้าสายได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้จากพระบิดา จึงได้สนองพระเดชพระคุณรัชกาลที่ 5 เรื่อยมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งจางวางกรมหมอ ถึง พ.ศ. 2415 ทรงสถาปนาเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ ต่อมาใน พ.ศ. 2429 ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือเป็นนายพลเรือตรีและนายพลเรือโทตามลำดับ
นายพลเรือโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ มีบุตรธิดากับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา 8 คน คนที่ 3 คือ พลเอก มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ หรือหม่อมราชวงศ์สะท้าน (กลาง) สนิทวงศ์ พระอัยกาในสมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
หม่อมราชวงศ์สะท้าน (กลาง) เกิดเมื่อ พ.ศ. 2409 รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านไปศึกษาวิชาทหารบกที่เดนมาร์ก สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกและโรงเรียนเสนาธิการทหาร กรุงโคเปนเฮเกน ก่อนกลับมารับราชการกรมยุทธนาธิการในสยามเป็นหม่อมชาติอุดม หม่อมราชนิกุล และพระราชทานยศเป็นนายพันเอกใน พ.ศ. 2446 มีคุณูปการเรื่องการจัดระเบียบกองทัพบกไว้เป็นอันมาก
ปลายรัชกาลที่ 5 ท่านย้ายไปรับราชการในตำแหน่งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ เป็นพระยาวงษานุประพัทธ วิบูลยปริวัตรเกษตราธิบดี ได้รับพระราชทานยศเป็น “นายพลโท” ก่อนรับพระราชทานยศพลเรือนเป็น “มหาอำมาตย์เอก”
พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาท่านเป็น “เจ้าพระยา” ในราชทินนามเดิม ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ ซึ่งเปลี่ยนนามมาเป็นกระทรวงคมนาคม ดำรงตำแหน่งดังกล่าวอยู่เป็นเวลา 13 ปี จึงกราบถวายบังคมลาออกจากราชการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 นายพลเอก มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อยู่ช่วงสั้น ๆ ในรัฐบาลของพระยามโนปกรณ์นิติธาดา (10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 – 21 มิถุนายน พ.ศ. 2476) ก่อนจะถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483 อายุได้ 75 ปี
ท่านมีบุตรธิดาทั้งสิ้น 14 คน ธิดาคนที่ 9 เกิดแต่ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) คือ หม่อมหลวงบัว กิติยากร พระชนนีแห่งองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
🔶 สรุปลำดับสายโลหิตแบบสั้นที่สุด
เจ้าจอมมารดาปราง (ราชินิกุลบางช้าง) + รัชกาลที่ ๒
↓กรมหลวงวงษาธิราชสนิท (ต้นสกุลสนิทวงศ์ ณ อยุธยา) + หม่อมแย้ม (ราชินิกุลบางช้าง)
↓พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ + หม่อมเขียน
↓เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ (หม่อมราชวงศ์สท้าน “กลาง” สนิทวงศ์) + ท้าววนิดาพินาริณี (บาง บุญธร)
↓หม่อมหลวงบัว กิติยากร + หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร (ต่อมาคือ พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ)
↓สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ผู้เขียน กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_159279
_________________________
“Snidvongs –Bang Chang”: Two Noble Lineages from the Maternal Line of Her Majesty Queen Sirikit, The Queen Mother
Author: Silpa Wattanatham Editorial Team
Published: Wednesday, 29 October 2025
Her Majesty Queen Sirikit, The Queen Mother (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง), is the daughter of Prince Chandaburi Suranath (พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) and Mom Luang Bua (Snidvongs na Ayudhya) Kitiyakara (หม่อมหลวงบัว สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กิติยากร).
Because Mom Luang Bua Kitiyakara was the daughter of General, Maha Ammat Ek, Chao Phraya Wongsanupraphat — Mom Rajawongse Satharn “Klang” Snidvongs na Ayudhya (พลเอก มหาอำมาตย์เอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ หรือ หม่อมราชวงศ์สท้าน “กลาง” สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) — and Tao Wanida Picharin (Bang Sananikwat na Ayutthaya) (ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)), the maternal heritage of Her Majesty is rooted in two major lineages:
the noble family Snidvongs na Ayudhya, and
the royal matrilineal clan Bang Chang, one of the earliest royal female lines of the Rattanakosin era.
“Snidvongs – Bang Chang” Lineage
Prince Wongsa Thirath Sananith (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท), born Mom Chao Nuam (หม่อมเจ้านวม), is the progenitor of the Snidvongs na Ayudhya family (ราชสกุลสนิทวงศ์ ณ อยุธยา). He was the 49th son of King Rama II (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2), born to Chao Chom Manda Prang (เจ้าจอมมารดาปราง) on 9 July 1808 while his father still held the title of Front Palace.
Chao Chom Manda Prang belonged to the Bang Chang (บางช้าง) royal matrilineal clan of Samut Songkhram — the birthplace of Queen Amarindra (สมเด็จพระอมรินทรา บรมราชินี), principal queen of King Rama I and mother of King Rama II. Because Queen Amarindra became the first Queen Mother in the Rattanakosin period, her maternal relatives formed the earliest recognised royal matrilineal clan (ราชินิกุล).
Chao Chom Manda Prang was the fourth daughter of Khrua Ta Boonkoet and Khrua Yai Thong-in (ขรัวตาบุญเกิด และ ขรัวยายทองอินทร์). Khrua Yai Thong-in was a granddaughter of Chao Thaen (เจ้าตาเจ้าแทน), uncle of Queen Amarindra. Both parents possessed medical knowledge, which they passed on to Prang, allowing her to serve as caregiver to the young King Mongkut (King Rama IV) and Prince Pinklao (later the Second King).
When King Rama II ascended the throne, Mom Chao Nuam was elevated as Prince Nuam (พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้านวม). Educated by his grandparents, he mastered traditional medicine and took interest in Western knowledge. In King Rama III’s reign, he served as chief of the Royal Medical Department and as royal physician. In 1842, he became Krom Muen Wongsasanit. Under King Rama IV, he supervised major state departments — Interior, Treasury — and acted as royal advisor. In 1851, he received the title Krom Luang Wongsa Thirath Sananith. He later authored medical and literary works revered in King Rama V's era.
Prince Wongsa Thirath Sananith passed away on 31 August 1870 at age 63. Of his 25 children, the second — Mom Chao Sai (หม่อมเจ้าสาย), son of Mom Yaem of Bang Chang lineage — continued the medical tradition.
Mom Chao Sai served King Rama V with distinction. In 1872, he became head of the Royal Medical Department and, in 1886, was elevated to Phra Worawongse Ther Prince Saisanithwong (พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์). He later became Commander of the Royal Siamese Navy, holding the ranks of Rear Admiral and Vice Admiral.
The Military and Administrative Lineage
Prince Saisanithwong had eight children with Mom Khian Snidvongs na Ayudhya (หม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา). The third child was General, Maha Ammat Ek, Chao Phraya Wongsanupraphat — Mom Rajawongse Satharn “Klang” Snidvongs na Ayudhya — maternal grandfather of Queen Sirikit.
Born in 1866, M.R. Satharn “Klang” was sent by King Rama V to study military science in Denmark. He graduated from both the Royal Danish Army Academy and the Staff College in Copenhagen. Upon returning, he served in the Ministry of War and rose to the rank of Colonel by 1903, modernising the Siamese army.
Later in King Rama V’s reign, he became Deputy Minister of Agriculture and was granted the title Phraya Wongsanupraphat (พระยาวงษานุประพัทธ). He rose to Lieutenant General and eventually Maha Ammat Ek. In 1910, King Rama VI elevated him to the rank of Chao Phraya, and he served as Minister of Public Works (later Ministry of Transport) for 13 years before retiring in King Rama VII’s reign.
After the 1932 revolution, he briefly served as Minister of Commerce under the government of Phraya Manopakorn Nititada (10 December 1932 – 21 June 1933). He passed away on 20 October 1940 at age 75.
He had 14 children. The ninth daughter, born to Tao Wanida Picharin (Bang Snidvongs na Ayutthaya), was Mom Luang Bua Kitiyakara, mother of Her Majesty Queen Sirikit.
🔷 Maternal Lineage (Simplified)
Her Majesty Queen Sirikit, The Queen Mother
1. King Rama II
Chao Chom Manda Prang (Bang Chang clan)
↓
Prince Wongsa Thirath Snid (Snidvongs na Ayudhya)
2. Prince Wongsa Thirath Snid
Mom Yaem (Bang Chang lineage)
↓
Prince Sai Snidvongs na Ayudhya
3. Prince Sai Snidvongs na Ayudhya
Mom Khian
↓
Chao Phraya Wongsanupraphat
(M.R. Satharn “Klang” Snidvongs na Ayudhya)
4. Chao Phraya Wongsanupraphat
Tao Wanida Picharin (Bang Boonthorn / Bang Chang)
↓
M.L. Bua Snidvongs na Ayudhya (later Kitiyakara)
5. M.L. Bua Snidvongs na Ayudhya
M.C. Nakkhatra Mangala Kitiyakara
↓
Her Majesty Queen Sirikit
เรียนเชิญกด Subscribe ได้ที่ลิงก์นี้ครับ เพื่อร่วมติดตามงานสร้างสรรค์ต้นฉบับ งานวิจัยประวัติศาสตร์แฟชั่น และผลงานอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยี AI ของ AI Fashion Lab, London ซึ่งมุ่งตีความอดีตผ่านมิติใหม่ของการบูรณะภาพ การสร้างสรรค์ภาพ และการเล่าเรื่องด้วยศิลปะเชิงดิจิทัล 🔗 https://www.facebook.com/aifashionlab/subscribe/
#aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashion #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #thailand #UNESCO