สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา : เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา : เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภาพที่ได้รับการบูรณะและสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี AI ชุดนี้ คือพระรูปของสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม สุจริตกุล)
สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) ธิดาหลวงอาสาสำแดง กับท้าวสุจริตธำรง (นาค สุจริตกุล) ประสูติเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๘๑ ทรงเป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และทรงเป็นพระมารดาของพระอัครมเหสีไทยถึงสามพระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี, สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงเป็นพระสัสสุ หรือพระแม่ยาย ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕
สายพระโลหิตของสมเด็จพระปิยมาวดีได้แผ่ขยายสู่หลายรัชกาล พระองค์ทรงเป็นพระอัยยิกา (ยาย) ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖, และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ อีกทั้งยังมีหลานย่าเป็นพระบรมราชินี คือสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นพระปัยยิกา (ย่าทวด) ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ ๘, และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ อีกทั้งยังทรงมีโหลนเป็นพระบรมราชินีนาถ คือสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และทรงเป็น “ย่าเทียด” ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
เจ้าจอมมารดาเปี่ยมได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศตามลำดับ ได้แก่ เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม, และเจ้าคุณพระอัยยิกาเปี่ยม และหลังจากพิราลัยได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้า ทรงพระนามว่า สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา โดยสร้อยพระนาม "ศรีพัชรินทรมาตา" มีความหมายว่า เป็นพระมารดาของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
__________________________
พระชนม์ชีพช่วงต้นและภูมิหลัง
สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา มีนามเดิมว่า เปี่ยม ประสูติเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๘๑ เป็นธิดาหลวงอาสาสำแดง (แตง) และท้าวสุจริตธำรง (นาค) ต้นราชินิกูลสุจริตกุล พระองค์สืบเชื้อสายจีนมาแต่ฝ่ายบิดาและมารดา กล่าวกันว่าบิดาของพระองค์นั้น "...พระบิดาเป็นจีน อ่านหนังสือไม่ออกเลย..." สอดคล้องกับ หนังสือ “ราชินิกูลในรัชชกาลที่ ๓” ดังที่ พระนิพนธ์ในสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ที่ระบุว่า "พระไอยิกาเปี่ยม สุจริตกุล มีบุรพบุรุษมาแต่จีน..." เช่นเดียวกับบันทึกของแอนนา ลีโอโนเวนส์ ซึ่งระบุว่าเจ้าจอมมารดาเปี่ยมนั้นมีเชื้อสายจีนจากบิดา และไม่มีชาติกำเนิดสูงส่งอย่างใด หลวงอาสาสำแดงเริ่มรับราชการเป็นสมุห์บัญชีกรมมหาดเล็กนายเวรฤทธิ์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาได้รับราชการเป็นเจ้ากรมต้นเรือซ้ายในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ส่วน อนุสรณ์ในงานเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพพระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจริตกุล) ท.จ.ว. พระสนมเอกในรัชกาลที่ ๖ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖ ระบุว่า บุรพชนของท้าวสุจริตธำรงซึ่งเป็นพระชนนี ก็มาแต่ประเทศจีน ราชินิกูลในรัชชกาลที่ ๓ พระนิพนธ์ในสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ระบุว่า "...ทางชนกมาแต่จีนสืบสายมาถึงท้าวสุจริตธำรง (นาค) ต้นวงศ์สุจริตกุล ซึ่งเปนพระชนนีของพระไอยิกาในรัชชกาลที่ ๖"
เข้ารับราชการในราชสำนัก
เบื้องต้น เปี่ยมเข้าเป็นนางฟ้อนในคณะละครหลวง แม้ว่าจะอ่านหนังสือไม่ออก แต่เป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็ง ช่างสังเกต และมีปฏิภาณไหวพริบดี จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากการที่เจ้าจอมมารดาเปี่ยมไม่ได้เป็นเจ้า พระราชบุตรจึงมีฐานันดรศักดิ์เป็นพระองค์เจ้า แม้นางจะไม่มีชาติกำเนิดสูงส่ง ทว่าฉลาด สามารถชักพาญาติพี่น้องรับราชการ และนำคนจีนจำนวนมากให้ไปรู้จักกับกษัตริย์สยาม ดังปรากฏในหนังสือของแอนนา ลีโอโนเวนส์ ความว่า
"สตรีเพียงหนึ่งเดียวซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามัดใจพระองค์ [พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว] ได้สำเร็จคือคุณจอมเปี่ยม แม้จะไม่ใช่คนสวยอะไร แต่วางตัวดีและมียุทธวิธีเยี่ยมยอด เธอมิได้มีการศึกษาและชาติกำเนิดสูงส่งเลย ทั้งยังมีเชื้อสายจีนทางฝั่งบิดา กระนั้นกลับมีคุณลักษณะที่น่าชื่นชมโดยเนื้อแท้ เมื่อรู้สึกได้ว่าตนเริ่มมีอิทธิพลเหนือกษัตริย์ เธอวางแผนจะรักษาและใช้ประโยชน์จากอำนาจดังกล่าวอยู่นานหลายปี โดยใช้วิธีบอกปัดบ้างเป็นครั้งคราว ถ่อมตนเกินเหตุจนน่ารำคาญบางครั้งถึงกับถูกกล่าวหาว่าดัดจริต เธอมักหาข้ออ้างไม่ไปเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์อยู่เป็นประจำ โดยอ้างว่าป่วยบ้าง ต้องดูแลลูก ๆ บ้าง อยู่ระหว่างไว้ทุกข์ญาติบ้าง และจะเต็มใจไปเข้าเฝ้าฯ ถวายงานเองเป็นช่วง ๆ ในช่วงเวลา ๖ ปีที่ถวายตัวรับใช้ เธอสะสมทรัพย์สมบัติไว้เป็นจำนวนไม่น้อย ทั้งยังจัดการให้สมาชิกในครอบครัวเธอได้รับราชการตำแหน่งดี ๆ ตลอดจนช่วงชักนำชาวจีนอีกมากมายให้ได้รู้จักกษัตริย์ ในขณะเดียวกันเธอก็ใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวตลอดเวลา ต้องยอมอ่อนน้อมถ่อมตนและประนีประนอมกับบรรดาสตรีคู่แข่งซึ่งออกจะสมเพชเธอมากกว่าอิจฉา และต้องอยู่ในอาณัติของเหล่าสตรีผู้ทรงอำนาจแห่งวังหลวง"
เจ้าจอมมารดาเปี่ยมได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสนมเอกในรัชกาล จากการที่เจ้าจอมมารดาเปี่ยมเป็นที่สนิทสวาทของพระสวามี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดพระราชบุตรที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเปี่ยมเป็นพิเศษ ดังจะพบการตั้งพระนามอันแสดงถึงความศิวิไลซ์ ลูกหลวงและบาทบริจาริกาเหล่านี้สวมฉลองพระองค์อย่างยุโรปและเล่าเรียนภาษาอังกฤษจากพระอาจารย์ต่างชาติในวังหลวง และท่านเป็นบาทบริจาริกาที่ถวายการดูแลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในช่วงปลายพระชนม์ชีพ
เข้าถวายตัวเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระชนนีในพระราชโอรส พระราชธิดา จำนวน ๖ พระองค์ คือ
๑. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย (๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๙๙ – ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๑๖) มีพระโอรส ๑ องค์
๒. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์ (๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๑ – ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๖) ต่อมาเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ มีพระโอรส–ธิดา ๔๐ พระองค์ เป็นพระปัยกาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
๓. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๓ – ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๒๓) มีพระอิสริยยศสูงสุดที่ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี มีพระราชธิดา ๑ พระองค์
๔. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๐๕ – ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๘) มีพระอิสริยยศสูงสุดที่ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีพระราชโอรส–ธิดา ๘ พระองค์ รวมถึงเป็นสมเด็จพระอัยยิกาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นสมเด็จพระปัยยิกาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
๕. พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๐๗ – ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๒) มีพระอิสริยยศสูงสุดที่ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชโอรส–ธิดา ๑๔ พระองค์ เป็นพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
๖. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ (๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๘ – ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๘) ต่อมาเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ มีพระโอรส–ธิดา ๓๖ พระองค์ หนึ่งในนั้นคือสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
ด้วยบทบาทอันสำคัญในฐานะพระชนนีของพระอัครมเหสีทั้งสามพระองค์ ผู้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระบรมราชเทวี, พระบรมราชินีนาถ, และพระพันปีหลวง อีกทั้งยังทรงเป็นดุจรากแก้วของสายพระราชวงศ์ ที่แตกกิ่งก้านสืบสานไปสู่หลายรัชสมัย สมเด็จพระปิยมาวดีจึงได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ร่วมสมัยว่าเป็นสตรีผู้เปี่ยมด้วยบุญวาสนาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และมักกล่าวถึงพระองค์ว่า
“สตรีในแผ่นดินนี้ ที่จะเปี่ยมด้วยบุญบารมีเฉกเช่นท่านผู้นี้ หาได้ยากยิ่งนัก”
เรียนเชิญกด Subscribe ได้ที่ลิงก์นี้ครับ เพื่อร่วมติดตามงานสร้างสรรค์ต้นฉบับ งานวิจัยประวัติศาสตร์แฟชั่น และผลงานอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยี AI ของ AI Fashion Lab, London ซึ่งมุ่งตีความอดีตผ่านมิติใหม่ของการบูรณะภาพ การสร้างสรรค์ภาพ และการเล่าเรื่องด้วยศิลปะเชิงดิจิทัล 🔗 https://www.facebook.com/aifashionlab/subscribe/
#aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashion #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #thailand #UNESCO
______________________
Somdet Phiyamawadi Sri Patcharindra Mata (สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา)
Somdet Phiyamawadi Sri Patcharindra Mata (Chao Chom Manda Piam — เจ้าจอมมารดาเปี่ยม), daughter of Luang Asa Samdaeng (หลวงอาสาสำแดง) and Thao Suritthamrong (Nak Sucharitkul — ท้าวสุจริตธำรง (นาค สุจริตกุล)), was born on 5 March 1838. She served as a principal consort of King Mongkut (Rama IV) and became the mother of three of the most eminent royal consorts of King Chulalongkorn (Rama V):
Somdet Phra Nang Chao Sunandha Kumariratana (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์) the Queen Consort, Somdet Phra Sri Savarindira (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี) the Queen Grandmother, and Somdet Phra Sri Patcharindra (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ) the Queen Mother.
Through these marriages, she became the mother-in-law of King Chulalongkorn (Rama V).
The royal lineage descending from Somdet Phiyamawadi extended across multiple reigns. She was the maternal grandmother of King Vajiravudh (Rama VI — พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) and King Prajadhipok (Rama VII — พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว). She was also paternal grandmother of Queen Rambhai Barni (สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี), Queen Consort of Rama VII. Furthermore, she was the great-grandmother of King Ananda Mahidol (Rama VIII — พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล) and King Bhumibol Adulyadej the Great (Rama IX — พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช). She was also the great-great-grandmother of Queen Sirikit (สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ), and the great-great-great-grandmother of King Maha Vajiralongkorn (Rama X — พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว) of the Chakri Dynasty.
Throughout her life, Chao Chom Manda Piam received several elevations of rank: first as Chao Khun Chom Manda Piam (เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม), then as Chao Khun Phra Aiyyika Piam (เจ้าคุณพระอัยยิกาเปี่ยม). Upon her passing on 13 April 1904, she was posthumously elevated to the rank of Somdet, receiving the title “Somdet Phiyamawadi Sri Patcharindra Mata” (สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา), meaning “the revered mother of Somdet Phra Sri Patcharindra, the Queen Mother.”
As the mother of three of the kingdom’s most revered royal consorts — a Queen Consort, a Queen Grandmother, and a Queen Mother — and as the ancestral matriarch whose lineage branched into multiple reigns of the Chakri Dynasty, Somdet Phiyamawadi occupies a singular place in Rattanakosin history. Contemporary observers and later historians alike have honoured her memory, often remarking:
“A woman in this land who possesses such noble merit and royal grace is exceedingly rare.”
เรียนเชิญกด Subscribe ได้ที่ลิงก์นี้ครับ เพื่อร่วมติดตามงานสร้างสรรค์ต้นฉบับ งานวิจัยประวัติศาสตร์แฟชั่น และผลงานอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยี AI ของ AI Fashion Lab, London ซึ่งมุ่งตีความอดีตผ่านมิติใหม่ของการบูรณะภาพ การสร้างสรรค์ภาพ และการเล่าเรื่องด้วยศิลปะเชิงดิจิทัล 🔗 https://www.facebook.com/aifashionlab/subscribe/
#aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashion #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #thailand #UNESCO